ฟอร์มล่าสุด:ระฆังทอง ดาบรันสารคาม

ฟอร์มล่าสุด:เพชรท่าสว่าง ร.ร.สุรินทร์ราชมงคล

วิเคราะห์มวยน่าดูวันนี้ (30 กันยายน 2568)

ศึกมวยมันส์สนั่นเมือง ช่วงที่ 2 เป็นการพบกันระหว่าง ระฆังทอง ดาบรันสารคาม มวยฝีมือจากขอนแก่น VS เพชรท่าสว่าง ร.ร.สุรินทร์ราชมงคล มวยเข่าจากสุรินทร์ ซึ่งจะชกกันในพิกัด 100.0 ปอนด์

ฟอร์มล่าสุด
ระฆังทอง ดาบรันสารคาม : พึ่งขึ้นชกในรายการ 
เพชรท่าสว่าง ร.ร.สุรินทร์ราชมงคล : พึ่งขึ้นชกในรายการ  

สำหรับแนวโน้มในวันนี้จากฟอร์มการชกของนักมวยทั้งสองคนคาดว่า

ยกที่ 1: ยกดูเชิงและชิงเหลี่ยม
ช่วงต้นยกจะเป็นการ ดูเชิง และ วัดระยะ กันก่อน ระฆังทอง ซึ่งเป็นมวยฝีมือจะใช้ เหลี่ยมเชิงที่ดี ในการคุมระยะและออกอาวุธนำที่แม่นยำ ส่วน เพชรท่าสว่าง จะเริ่ม เดินเข้าหา ทันทีตามสไตล์มวยเดินไม่หยุด แต่ยังไม่เร่งมากนัก พยายามหาจังหวะ เข้าประชิดตัว และทดสอบการป้องกันของระฆังทอง ยกนี้จะยังไม่มีการปะทะที่รุนแรง เน้นการ ชิงจังหวะ และวัดความเร็วของอาวุธ

ยกที่ 2: ยกเริ่มเปิดเกมและวัดความหนักหน่วง
พอผ่านยกแรกไป ระฆังทอง จะเริ่มใช้ ความครบเครื่อง และ อาวุธหนักแรง เข้าทำอย่างต่อเนื่อง มีการปล่อย หมัด และ ศอกแรง เพื่อทำลายจังหวะการเดินของคู่ชก พร้อมกับหาจังหวะ เตะ และ ตีเข่า สกัด ส่วน เพชรท่าสว่าง จะต้อง เดินไม่หยุด เข้าหามากขึ้น พยายาม ปิดระยะ และหาจังหวะ คว้าคอแทง ทันที การปะทะกันในช่วงนี้จะวัดกันที่ว่าอาวุธที่หนักหน่วงของระฆังทองจะสามารถหยุดยั้งการเดินของเพชรท่าสว่างได้หรือไม่

ยกที่ 3: ยกชี้วัดและบดบี้ในวงใน
นี่คือยกสำคัญที่สุดและเป็นยกตัดสินเกมครับ ระฆังทอง ต้องงัด เหลี่ยมเชิง และ ลูกเข่าล็อกตีที่ดี ออกมาใช้ให้หมดหน้าตัก เพื่อไม่ให้เพชรท่าสว่างได้เปรียบจากการล็อกคอ ส่วน เพชรท่าสว่าง ต้องเร่งเครื่องเต็มที่เพื่อทำคะแนนในวงใน เขาจะใช้ ความสูงยาว และ ความแข็งแรง เข้า คว้าคอแทงๆ อย่างต่อเนื่อง พยายาม บดขยี้ ระฆังทองด้วยพลังปอด หากเพชรท่าสว่างสามารถ ล็อกคอ และ แทงเข่า ได้ชัดเจนกว่า จะเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างมาก

ยกที่ 4: ยกแห่งการแก้เกมและวัดปลายแรง
เมื่อเข้าสู่ยกนี้ เพชรท่าสว่าง จะเริ่มใช้ ความแข็งแรง ปอดใหญ่ปลายแรง ให้เป็นประโยชน์ เขาจะ เดินไม่หยุด และ ล็อกรัดตี อย่างต่อเนื่องเพื่อทำลายกำลังของระฆังทอง ส่วน ระฆังทอง ต้องใช้ ความฉลาด และ เหลี่ยมมวย ที่เหนือกว่าในการ วนออก และ แก้ทางล็อก เพื่อไม่ให้โดนบดขยี้มากเกินไป การ ดักศอก และ เข่าสวน จะเป็นอาวุธสำคัญในการต้านทานความแข็งแรงของเพชรท่าสว่าง

ยกที่ 5: ยกตัดสินและวัดใจ
ยกสุดท้ายจะเป็นการ วัดใจ และวัด ความฟิต ของทั้งคู่ หากคะแนนยังสูสี เพชรท่าสว่าง จะใช้ แรงฮึดสุดท้าย และ ปอดใหญ่ปลายแรง ในการ เดินลุย ด้วย ลูกเข่า และ การคว้าคอแทง เพื่อทำคะแนนให้ขาด ส่วน ระฆังทอง ต้องพยายามใช้ จังหวะมวยฝีมือ และ อาวุธหนักแรง ในการ ดักโต้ และ คุมเชิง จนวินาทีสุดท้าย มวยที่ ออกอาวุธได้ชัดเจน เข้าเป้า และ มีผล ต่อคู่ต่อสู้ในช่วงท้ายยกนี้ จะเป็นผู้ที่คว้าชัยชนะไป

คาดการณ์ว่า : ระฆังทอง ดาบรันสารคาม มีโอกาสชนะมากกว่า

สามารถติดตามข้อมูลมวย ได้ที่ zianmuay.org รู้ลึกรู้จริงเรื่องมวย