จ้าวเสือใหญ่ ม.กรุงเทพธนบุรี ดาวบู๊ไฟแรงจากเมืองกรุง เปิดเผยความในใจครั้งแรก หลังโชว์ฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่อง จนก้าวขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงอันดับ 5 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต คนปัจจุบัน

           ปี 2568 ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในฐานะนักชกอาชีพของ จ้าวเสือใหญ่ ม.กรุงเทพธนบุรี หลังคว้าชัย 3 ไฟต์รวดแบบไร้ที่ติ เริ่มจากน็อก ยอดเหล็กเพชร อ.อัจฉริยะ ในเดือน ม.ค. ต่อด้วย เดนิส พูริช จนสามารถคว้าสัญญานักกีฬา ONE มาครองได้สำเร็จในศึก ONE ลุมพินี 100 เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา

           จากนั้นเขาได้โอกาสเปิดตัวบนเวทีใหญ่ในฐานะคู่เอกนำรายการศึก ONE Fight Night 32 เมื่อต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา และไม่ทำให้แฟนมวยทุกคนผิดหวัง โชว์อาวุธแม่ไม้มวยไทยสวยงามปิดเกมน็อก นักรบ แฟร์เท็กซ์ มือวางอันดับ 5 ของรุ่นนี้ ในเวลาเพียง 52 วินาทีของยกแรก พร้อมคว้าโบนัส 5 หมื่นดอลลาร์ และแจ้งเกิดได้อย่างงดงาม

           ชัยชนะครั้งล่าสุดไม่เพียงแต่ทำให้เขาเป็นที่รู้จักในหมู่แฟนมวยทั่วโลกมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้ จ้าวเสือใหญ่ ม.กรุงเทพธนบุรี ได้นั่งแทนที่ นักรบ แฟร์เท็กซ์ ขึ้นรั้งตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับ 5 ของรุ่นนี้อย่างรวดเร็วทันใจ เรียกได้ว่าสำเร็จไปอีกหนึ่งก้าวสำหรับความฝันที่ตั้งใจไว้

           “ตอนที่รู้ว่ามีชื่อเข้าไปอยู่ในแรงกิง ผมรู้สึกดีใจมากครับ ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เข้าแรงกิงเร็วขนาดนี้ เพราะผมเพิ่งขึ้นมาชกบนเวที ONE ใหญ่ แค่ไฟต์เดียว ตอนนี้มันเกินฝันไปมากจริง ๆ ครับ”

           หลังจากนี้ จ้าวเสือใหญ่ ม.กรุงเทพธนบุรี จะต้องเผชิญบททดสอบที่ใหญ่กว่าเดิม เพื่อพิสูจน์ว่าเขาคือของจริงในรุ่นนี้ เจ้าตัวยืนยันว่าพร้อมปะทะกับทุกคนในแรงกิง โดยเฉพาะ ก้องธรณี ส.สมหมาย มือวางอันดับ 4 ของรุ่นนี้ ซึ่งเป็นคู่ปรับเก่าที่เคยเจอกันมาแล้วในศึก ONE ลุมพินี 58 เมื่อเดือน เม.ย.67 ซึ่งวันนั้น จ้าวเสือใหญ่ ม.กรุงเทพธนบุรี เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ซึ่งแน่นอนว่าเขาต้องการล้างตา และหวังจะไต่ขึ้นไปแทนที่ตำแหน่งนั้นให้ได้

           “หลังจากนี้ผมพร้อมเจอกับนักชกทุกคนในแรงกิง หรือจะเป็นนักชกต่างชาติที่ไม่ได้อยู่ในแรงกิงผมก็พร้อมเจอเช่นกัน ผมจะซ้อมให้หนักขึ้น สัญญาว่าจะทำผลงานให้ออกมาดีกว่าเดิมในทุก ๆ ไฟต์ เพื่อทำฟอร์มไปชิงเข็มขัดของรุ่นนี้ให้ได้ครับ”

           “นักสู้แต่ละคนในแรงกิงรุ่นนี้น่ากลัวทั้งนั้นเลยครับ แต่ถ้าให้เลือกว่าไฟต์ต่อไปอยากเจอกับนักสู้คนไหนในแรงกิง ผมอยากแก้มือกับ ก้องธรณี ส.สมหมาย มากที่สุด เพราะจากไฟต์ที่เคยเจอกัน ผมมองว่ารูปเกมสูสีและเบียดกันมาก รู้สึกเสียดายที่แพ้ไปและอยากจะสู้กันอีกครั้ง ถ้าได้เจอกันครั้งหน้า ผมน่าจะสู้กับเขาได้ดีกว่าเดิม และถ้าเอาชนะได้ ผมอาจจะได้ขึ้นไปอยู่ในอันดับ 4 ของแรงกิงแทนเขาด้วยครับ”

[ เกร็ดมวย เซียนมวย ]

• จ้าวเสือใหญ่ ม.กรุงเทพธนบุรี เกิดและเติบโตในเมืองกรุง รู้จักกับการต่อสู้มาตั้งแต่อายุ 7 ขวบจากการไปเล่นกับเพื่อนในยิมแถวบ้าน หลังจากนั่นเขาได้รับการชักชวนให้เข้ามาฝึกซ้อมอย่างจริงจัง และ 16 ปีผ่านไปเขาใช้อาชีพมวยในการหาเลี้ยงชีพมาจนถึงทุกวันนี้
• ด้วยพรสวรรค์ในการออกอาวุธแม่ไม้มวยไทยที่หลากหลาย บวกกับฝีมือที่เก่งกาจไม่ธรรมดา ทำให้เขาเคยคว้ารางวัล “นักมวยไทยที่ใช้ศิลปะมวยไทยยอดเยี่ยมแห่งปี 2563” ของเวทีมวยช่อง 7 สี